นับจากนี้เราสองคนอยู่กันคนละโลก
เรื่องราวดราม่าสุดสะเทือนใจ “นับจากนี้เราสองคนอยู่กันคนละโลก” เปิดม่านด้วยโศกนาฏกรรมที่เกิดขึ้นเมื่อเจ็ดปีก่อน วันที่ เมธัส ต้องถูกผลักให้ตกนรกทั้งเป็น ด้วยน้ำมือของครอบครัวและคนรักที่เขาเชื่อใจที่สุด
อุบัติเหตุร้ายแรงคร่าชีวิตผู้บริสุทธิ์ไปหนึ่งราย คนที่ก่อเหตุแท้จริงคือ ธาม พี่ชายแท้ ๆ ของเมธัส แต่แทนที่ครอบครัวจะปกป้องหรือหาทางแก้ปัญหาอย่างซื่อตรง กลับเลือกผลักภาระความผิดทั้งหมดมาให้เมธัสรับไว้ โดยมีทั้ง ศิริพร ผู้เป็นแม่, เทวา ผู้เป็นพ่อ และ พีรมล คู่หมั้นที่เขารักสุดหัวใจ ร่วมมือกันกดดัน บังคับ และใส่ร้ายว่าเขาเป็นคนขับรถชนจนผู้คนเชื่อสนิทใจ
ภาพในวันนั้นยังตามหลอกหลอน… ตำรวจมาถึง พีรมลซึ่งเขาเคยคิดว่าจะยืนเคียงข้างกันตลอดชีวิต กลับเป็นคนแรกที่ยกมือชี้หน้าว่า “เมธัสคือคนขับ” น้ำเสียงนั้นไม่สั่น ไม่ลังเลแม้แต่น้อย ประโยคเดียวเปลี่ยนชีวิตเขาจากชายหนุ่มอนาคตสดใส ให้กลายเป็นนักโทษที่ต้องอยู่ในคุกมืดมนตลอดเจ็ดปี
แต่แทนที่เรือนจำจะทำลายเขา… เมธัสกลับใช้เวลานั้นพิสูจน์ให้เห็นว่า เขาไม่ใช่แค่แพะรับบาปธรรมดา เขาฝังตัวอยู่กับตำราวิชาการ ศึกษาค้นคว้าเทคโนโลยีนิวเคลียร์ฟิวชัน จนผลงานของเขาได้รับการยอมรับจากสถาบันวิจัยระดับชาติ แม้โลกภายนอกไม่เคยเห็นคุณค่า แต่ชื่อของ เมธัส ได้รับการบันทึกในฐานะอัจฉริยะที่เปลี่ยนอนาคตของประเทศ
ทว่า เมื่อเขาออกจากเรือนจำ ความจริงที่โหดร้ายก็รออยู่ตรงหน้า — ครอบครัวไม่เหลือแม้เศษเสี้ยวความรักให้ คนที่เคยเรียกว่าคู่หมั้นกลับหันไปโอบกอดคนอื่น ส่วนธาม ผู้ที่แท้จริงควรรับผิด กลับใช้ชีวิตหรูหราในฐานะทายาทคนโปรดของตระกูล
หัวใจที่แตกสลายครั้งแล้วครั้งเล่า ทำให้เมธัสตัดสินใจอย่างเด็ดเดี่ยว…
“ตั้งแต่นี้ไป เราสองคนอยู่กันคนละโลก”
✨ เรื่องราวเข้มข้นสะท้อนความจริงของความรัก ความทรยศ และการลุกขึ้นมาเป็นตัวของตัวเอง ติดตามบทสรุปที่เต็มไปด้วยไฟแค้นและความยิ่งใหญ่ของเมธัสได้ที่ โรงหยก (RongYok.com) ที่นี่ที่เดียว ซีรีส์จีนและดราม่าหนักสะใจ ที่จะทำให้คุณร้องไห้และฮึดสู้ไปพร้อมกับตัวละคร!
จุดเริ่มต้นของโศกนาฏกรรมที่ไม่อาจลืม
โศกนาฏกรรมครั้งนี้เริ่มต้นในค่ำคืนหนึ่งเมื่อเจ็ดปีก่อน… ค่ำคืนที่เปลี่ยนชีวิต เมธัส จากชายหนุ่มผู้เต็มเปี่ยมด้วยความฝัน ให้กลายเป็น “นักโทษผู้รับบาปแทน” โดยที่เขาไม่ได้ทำอะไรผิดเลยสักนิด
อุบัติเหตุเกิดขึ้นอย่างฉับพลัน รถหรูคันหนึ่งพุ่งชนคนเดินถนนจนเสียชีวิตทันที คนที่อยู่หลังพวงมาลัยคือ ธาม พี่ชายแท้ ๆ ของเมธัส แต่เมื่อทุกสายตาหันมามอง ครอบครัวกลับเลือกจะปกป้องคนที่รักและไว้ใจอย่างธาม พร้อม ๆ กับผลักเมธัสลงสู่เหวลึกที่ไร้ทางออก
ความเจ็บปวดที่สุดไม่ใช่การถูกตราหน้าว่าเป็นฆาตกร แต่เป็นการถูกหักหลังจากคนที่เขารักสุดหัวใจ พีรมล คู่หมั้นผู้เคยให้สัญญาว่าจะอยู่เคียงข้างกัน กลับชี้หน้าต่อหน้าตำรวจว่าเขาคือผู้ขับรถชน น้ำเสียงนั้นหนักแน่นจนใครต่อใครไม่อาจสงสัย ความเงียบของพ่อแม่ที่ไม่ยอมเอ่ยปากปกป้อง กลับกลายเป็นดาบที่คมกว่าโซ่ตรวนในเรือนจำเสียอีก
ในห้องขังที่มืดมน เมธัสได้เรียนรู้ว่าความรักและครอบครัวอาจเป็นเพียงภาพลวงตา สิ่งที่แท้จริงคือความแข็งแกร่งในใจของตนเอง เขาเลือกที่จะไม่ยอมแพ้ต่อโชคชะตา หันมาใช้เวลาแต่ละวันศึกษา ค้นคว้า และต่อสู้กับความสิ้นหวังทีละน้อย ความรู้กลายเป็นอาวุธเดียวที่เขามี และมันคืออาวุธที่จะพาเขาออกไปเผชิญโลกภายนอกในวันที่ถึงเวลา
ทว่า… ในโลกภายนอก ชีวิตของธามและพีรมลกลับดำเนินต่อไปอย่างหรูหราและงดงาม ราวกับไม่เคยมีเลือดเปื้อนอยู่บนมือ ความไม่ยุติธรรมนี้เองที่ฝังแน่นในใจเมธัส และจะกลายเป็นเชื้อไฟที่จะเปลี่ยนเขาจาก “เหยื่อ” ให้กลายเป็น “ผู้ลุกขึ้นมาทวงคืนความยุติธรรม”
การกลับมาเพื่อทวงคืนความจริงและศักดิ์ศรี
หลังจากใช้เวลาเจ็ดปีในเรือนจำ เมธัส ไม่ได้ออกมาในฐานะนักโทษที่พ่ายแพ้ แต่กลับออกมาในฐานะ “ชายผู้ถือความรู้และความมุ่งมั่น” เขาใช้เวลาทุกวันในคุกศึกษาเทคโนโลยีขั้นสูง โดยเฉพาะ นิวเคลียร์ฟิวชัน จนได้รับการยอมรับจากสถาบันวิจัยแห่งชาติ ข่าวคราวการค้นพบที่เขามีส่วนร่วมแม้จะอยู่ในเรือนจำ ทำให้ชื่อเสียงของเขาเริ่มเป็นที่รู้จักในวงการวิชาการ
แต่เมื่อก้าวพ้นประตูเรือนจำ สิ่งแรกที่เขาพบไม่ใช่อ้อมกอดของครอบครัว หากแต่เป็นความเย็นชาและสายตาที่เต็มไปด้วยความรังเกียจ ศิริพร แม่แท้ ๆ ของเขา มองด้วยสายตาที่ไม่ต่างจากคนแปลกหน้า ส่วน เทวา ผู้เป็นพ่อกลับทำเหมือนไม่มีลูกชายชื่อนี้อยู่ในบ้านเสียด้วยซ้ำ ความสัมพันธ์ที่ครั้งหนึ่งเขาเคยยึดมั่น กลายเป็นเพียงเถ้าธุลีที่ปลิวหายไปในอากาศ
พีรมล ผู้หญิงที่เขาเคยรักหมดใจ วันนี้กลับกลายเป็นภรรยาของธาม และใช้ชีวิตหรูหราราวราชินี เมธัสได้แต่ยืนมองเธอจากระยะไกล ความทรงจำเก่า ๆ ผุดขึ้นมาเหมือนเงามืดหลอกหลอน น้ำเสียงหัวเราะและคำสัญญาที่เธอเคยพูดซ้ำแล้วซ้ำเล่า กลับกลายเป็นคำโกหกที่ทำร้ายจิตใจอย่างแหลมคม
แม้หัวใจจะบอบช้ำเพียงใด แต่เมธัสเลือกจะไม่เสียเวลาไปกับการร้องไห้อีกต่อไป เขาตั้งใจว่าจะใช้ความรู้และสติปัญญาที่สั่งสมมาทั้งหมด เป็นเกราะคุ้มกันและเป็นดาบในการทวงคืนความยุติธรรมให้กับตนเอง
เขาเริ่มเข้าร่วมโครงการวิจัยสำคัญระดับนานาชาติ สร้างผลงานที่สั่นสะเทือนวงการวิทยาศาสตร์ไปทั่วโลก และนั่นทำให้หลายสถาบันต่างแย่งชิงตัวเขา แต่ในใจเมธัส เขารู้ดีว่านี่ไม่ใช่แค่เรื่องของวิทยาศาสตร์ หากเป็นหนทางสู่การพิสูจน์ตัวตน เขาจะให้ทุกคนเห็นว่า “คนที่ถูกตราหน้าว่าเป็นฆาตกร” นั้น แท้จริงแล้วมีคุณค่ามากเพียงใด
และในขณะเดียวกัน เขาไม่ได้ลืมว่า สิ่งที่ติดค้างอยู่ไม่ใช่แค่ความยุติธรรมที่หายไป แต่ยังมี “ความจริงที่ถูกปกปิด” และ “หนี้แค้นที่ยังไม่ได้ชำระ” ซึ่งวันหนึ่ง… จะต้องถูกเปิดโปงต่อหน้าทุกสายตา
ความจริงที่ถูกซ่อนเร้น และไฟแค้นที่คุโชน
เมื่อเมธัสเริ่มกลับเข้าสู่สังคม เขาค้นพบว่าทุกก้าวย่างของเขายังคงถูกพันธนาการด้วย เงาอดีต คนรอบข้างบางส่วนมองเขาด้วยความชื่นชมต่อผลงานทางวิทยาศาสตร์ แต่ในอีกแง่หนึ่งกลับมองว่าเขาเป็นนักโทษที่ไม่ควรถูกยกย่อง ความขัดแย้งนี้ยิ่งทำให้เมธัสตัดสินใจแน่วแน่ว่า ต้องเปิดโปงความจริงทั้งหมด เพื่อพิสูจน์ว่าเขาคือ “ผู้ถูกกระทำ” ไม่ใช่ “ผู้ร้าย” อย่างที่ใครหลายคนตีตราไว้
เบื้องหลังเหตุการณ์ชนคนตายเมื่อเจ็ดปีก่อน ความจริงเริ่มกระจ่างขึ้นทีละน้อย ธาม พี่ชายแท้ ๆ ของเขา คือคนที่อยู่หลังพวงมาลัยในคืนนั้น แต่เพราะความกลัวและความเห็นแก่ตัว ธามเลือกจะโยนความผิดทั้งหมดให้เมธัส ขณะที่ ศิริพร และ เทวา ผู้เป็นพ่อแม่แท้ ๆ กลับไม่ลังเลที่จะร่วมมือกันกดดันลูกชายคนเล็กให้รับผิดแทน เพื่อรักษาชื่อเสียงของครอบครัวและอนาคตของธามเอาไว้
สิ่งที่ทำให้เมธัสเจ็บปวดที่สุดคือ พีรมล หญิงสาวที่เขารักหมดใจ กลับเป็นคนแรกที่ยกมือชี้ว่าเขาคือคนขับรถในวันนั้น ทั้งที่เธอรู้ดีว่าใครคือผู้กระทำตัวจริง คำพูดเพียงประโยคเดียวของเธอ ทำลายอนาคตของเมธัสและลากเขาเข้าสู่ขุมนรกแห่งการถูกจองจำ
ความจริงเหล่านี้ค่อย ๆ ถูกเปิดเผย ผ่านร่องรอยและเบาะแสที่หลุดรอดออกมาในแต่ละเหตุการณ์ เมธัสรวบรวมข้อมูลและเอกสารที่เคยถูกซ่อนเร้นไว้ในสถาบันการแพทย์และตำรวจที่เกี่ยวข้อง เขาเริ่มเชื่อมโยงเครือข่ายที่คอยปกปิดคดี จนเห็นโครงสร้างการโกหกที่ยิ่งใหญ่ซึ่งครอบครัวของเขามีส่วนร่วมโดยตรง
ไฟแค้นในหัวใจของเมธัสไม่ได้เป็นแค่ความโกรธชั่ววูบ แต่มันคือพลังที่ผลักดันให้เขามีชีวิตอยู่ต่อ เขาไม่ต้องการเพียงแค่ล้างมลทิน แต่ยังต้องการให้ทุกคนที่หักหลังเขา ได้ลิ้มรสความเจ็บปวดที่เขาต้องทนมาอย่างยาวนาน
และเมื่อชื่อเสียงในฐานะนักวิจัยชั้นนำเริ่มทำให้เขามีพลังอำนาจและสายสัมพันธ์ในระดับนานาชาติ เมธัสก็ตัดสินใจว่า เวลาเอาคืน…ใกล้มาถึงแล้ว
จุดสิ้นสุดของพันธนาการ และการเลือกเดินไปข้างหน้า
ในวันที่ความจริงทั้งหมดถูกเปิดโปง ความลับที่ครอบครัวเฉินปกปิดมายาวนานก็แตกสลายลงต่อหน้าสาธารณชน ธาม ถูกลากเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม พ่อและแม่ที่เคยเลือกปกป้องลูกชายคนโต ต้องเผชิญหน้ากับสายตาประณามจากสังคม ขณะที่ พีรมล ผู้หญิงที่เมธัสเคยรักหมดใจ กลับพบว่าตัวเองไม่เหลือที่ยืนอีกต่อไป เพราะความโลภและความเห็นแก่ตัวของเธอได้ผลักชายผู้ซื่อสัตย์ออกไปตลอดกาล
ส่วนเมธัส เขาไม่ได้เพียงล้างมลทินให้ตัวเองสำเร็จ แต่ยังเปลี่ยนแผลเป็นในอดีตให้กลายเป็นพลังที่จะก้าวไปข้างหน้า เขาตัดสินใจวางจุดสิ้นสุดของความสัมพันธ์ที่เต็มไปด้วยการหลอกลวงและหันไปโอบรับชีวิตใหม่ ในเส้นทางนักวิจัยที่เขารักและเชื่อมั่น นี่ไม่ใช่เพียงชัยชนะของคนที่ถูกใส่ร้าย แต่คือการประกาศให้โลกได้เห็นว่า ไม่มีกรงทองใดจะกักขังหัวใจและความจริงได้ตลอดไป
สำหรับผู้อ่านที่อยากสัมผัสเรื่องราวดราม่าที่เข้มข้น และความยิ่งใหญ่ของการลุกขึ้นสู้เพื่อศักดิ์ศรีและความยุติธรรม อย่าพลาดชม “นับจากนี้เราสองคนอยู่กันคนละโลก” ได้ที่ [โรงหยก] เว็บเดียวที่รวมทุกความสะเทือนอารมณ์ของซีรีส์จีนสุดดราม่า ที่จะทำให้คุณร้องไห้ไปกับตัวละคร และสะใจไปกับความจริงที่ถูกเปิดเผย!